วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2552

8อย่างเพื่อการเก็บเงิน

คนที่มีฐานะมั่นคงไม่ได้หมายความว่าเป็นคนหาเงินได้เยอะ แต่กลับเป็นคนที่มีวินัยในการเก็บเงิน และไม่เสียเงินไปกับเรื่องจุกจิกจนทำให้เงินเก็บสูญไป ปีใหม่นี้ตั้งต้นเก็บเงินกันใหม่ดีกว่า
1. เคลียร์ให้จบสิ้นก่อน
เป็นกฎทองของการเก็บเงินที่คุณควรจะเคลียร์หนี้สินที่ติดไว้กับบัตรเครดิตให้จบ ลงเสียก่อน เพราะแม้ว่าเครดิตการ์ดจะเป็นช่องทางจ่ายเงินที่สะดวกสบาย แต่ถ้าบิลที่เรียกเก็บทำให้การเงินของคุณไม่สมดุลกันระหว่างเดือน รับรองว่าคุณจะไม่มีเงินเหลือเก็บแน่นอน ทางแก้ก็คือ ค่อยๆ ผ่อนชำระหรือหาเงินกู้ที่มีดอกเบี้ยถูกกว่า โปะทับไปก่อนที่ดอกเบี้ยบัตรเครดิตจะบานเป็นดอกเห็ด
2. ทำช้อปปิ้งลิสต์
คงไม่มีสาวคนไหนจะมานั่งทำช้อปปิ้งลิสต์เวลาไปซื้อของ แต่คุณรู้ไหมว่าลิสต์นี้จะทำให้คุณประหยัดได้มากขึ้นไม่ว่าจะเป็นเวลาในการ ช้อปปิ้ง การซื้อของตรงวัตถุประสงค์ และกำหนดเงินในกระเป๋าได้ว่าจะต้องใช้จ่ายเท่าไรบ้างในการซื้อของครั้งนี้ จะได้งดซื้อของที่ไม่จำเป็นออกไป รวมทั้งกำหนดเลยว่าในหนึ่งเดือนจะต้องออกไปซื้อของกี่ครั้ง จะได้ประหยัดค่ารถไปในตัว
3.อย่าติดชื่อแบรนด์
แม้คนดังจะใส่เสื้อผ้าแพงระยับอย่างไร แต่คุณไม่จำเป็นจะต้องซื้อแบรนด์ดังๆ อย่างพวกเขาก็ได้ เพียงคุณดูแฟชั่น และแต่งตัวให้เป็นก็เพียงพอแล้ว อย่าไปเสียเงินให้แบรนด์ต่างๆ จะต้องมานั่งกลุ้มใจเอง
4.ใช้พรสรรค์สร้างเงิน
ไม่ว่าคุณมีพรสวรรค์ทางด้านไหน ก็สามารถขุดขึ้นมาทำเงินได้แน่นอน บางคนนิยมถักตุ๊กตา ทำอาหาร ทำบล็อกเว็บไซต์ รับสอนหนังสือ และอื่นๆ อีกมากมาย คุณควรนำความสามารถเหล่านี้มาเป็นจุดขายในการสร้างเงิน เพิ่มรายได้พิเศษได้เดือนละหลายพันบาททีเดียว
5.ทำของใช้เองบ้าง
ไม่ต้องเสียเงินทองไปซื้อของ ลองใช้วิธี Do lf Your self ลองประดิษฐ์ของใช้ในบ้านเอา เช่น แท่นวางของ อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน นอกจากจะได้โชว์ฝีมือแล้ว ยังไม่เปลืองเงินอีกด้วย
6.วางแผนการท่องเที่ยว
คุณทราบไหมว่า ถ้าจองตั๋วเครื่องบินหรือที่พักก่อนเทศกาลท่องเที่ยว ราคาจะถูกมากกว่าถึง 30% ให้คุณแพลนกิจกรรมท่องเที่ยวเอาไว้ทั้งปี และฉลาดในการจัดทริป เพราะเงินจะเหลือจนคุณช้อปปิ้งซื้อของฝากได้สบายๆ หรือพยายามหาตั๋วที่มีส่วนลด ราคาจะได้ไม่บานปลายเหมือนปีที่ผ่านมา
7. หัดปฏิเสธเสียบ้าง
สาวสังคมทั้งหลายยิ่งช่วงปีใหม่ เรื่องกินเรื่องเที่ยวกระหน่ำเข้ามาแทบทุกวัน หัดปฏิเสธและเลือกไปเฉพาะบางงาน เพราะคุณต้องเสียค่าดริ๊งก์ ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ฯลฯ รวมแล้วนำมาเป็นเงินเก็บหรือใช้หนี้ได้อย่างสบายๆ
8. ฉลาดเป็นสมาชิก
คุณเคยนับยอดไหมว่าเดือนหนึ่งคุณจะต้องเสียค่าสมาชิกยิม เคเบิลทีวี อินเทอร์เน็ตไร้สาย ฯลฯ เป็นจำนวนเท่าไร ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดภาระรายจ่ายจุดนี้ลงบ้าง เพราะคุณสามารถออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมแนวเดียวกันโดยเสียเงินน้อยกว่าได้

ทายนิสัยตามสีรถ

คนเรามักเลือกสิ่งของตามสีที่ตัวเองชอบ รถยนต์ก็เช่นกันค่ะ วันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่า สีรถที่คุณใช้อยู่ บ่งบอกถึงตัวตนของคุณได้ว่าอย่างไรบ้าง
รถสีขาว
เขาและเธอจะล้ำเลอในเรื่องความสะอาดสะอ้าน ติดจะสมถะสันโดษอีกต่างหาก จิตใจก็เยือกเย็นมากแถมใจอ่อนไหวง่าย ไม่ข่มเหงใครก่อนเพราะเป็นคนอ่อนโยนด้วย
รถสีเขียว
เป็นคนค่อนข้างปราดเปรียว แต่ไม่เฉี่ยวโฉบหวือหวา ชอบอิสระเสรี สิ่งไรที่จำเจล่ะก็ เขาหรือเธอจะขอหลีกเลี่ยงทันควัน ทว่าเป็นคนพิถีพิถัน มั่นใจในตัวตน และเป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์
รถสีดำ
จำไว้เลยว่าเขาหรือเธอ จะเป็นคนหนักแน่น ดังแผ่นหินแผ่นเหล็ก เล็กๆ ไม่ทำ สีดำ คือ สีของทิฐิประเภทดื้อรั้น ไม่หวั่นไหวรักใครรักจริงรักรักนานรถสีแดง
ชอบสำแดงความโลดโผนคล่องแคล่ว แล้วยังแบบว่าข้าเด่นคนเดียว ถ้านำได้ ทำได้ จะไม่ลังเลให้เสียเวลา ถ้าจะมีปัญหาทุกข์ยากลำบากลำบน ก็เผชิญได้สบายดี เพราะไม่มีอดีตสำหรับเขาและเธอผู้เลือกเท่าไหร่
ถสีเทา
เบ้าหลอมคล้ายคลึงกับสีขาว ไม่ชอบก้าวก่ายเรื่องใครแต่ใครอย่าแหย่ล่ะ จะเดินหนีเอาดื้อ ๆ หรือไม่ก็ชกหน้าคนที่มาหาเรื่องซะที่สองที่ก่อนจะตีจาก เพราะพูดมากไม่เป็น ทั้งที่ใจเย็น
รถสีฟ้าและสีน้ำเงิน
รสนิยมเหลือรับ รักครอบครัวเหลือร้าย จิตใจสุขุมคัมภีรภาพ สามารถรับรู้หรือล่วงรู้จิตใจคนใกล้ชิดได้ดีรถสีส้ม
อารมณ์ดีร่าเริง รักความถูกต้องยุติธรรม แม้น้ำใจจะดี แต่ก็ติด ๆ เจ้าโทสะอยู่มาก รักคนยากสักนิด ความคิดก้าวหน้า และชอบทำมากกว่าพูด
รถสีชมพู
รู้อยู่ว่าเธอหรือเขาเป็นเจ้าแห่งความละเมียดละไมในความรัก เจ้าอารมณ์ไม่น้อย พูดจาทันคนแต่งตัวทันสมัย มาด ทันตา รวมความว่าเป็นคนทันยุคทุกด้านรถสีม่วง
ลึกลับ ลึกซึ้ง และร้าย รักง่าย แต่โกรธง่ายเบื่อง่าย แต่โกรธง่ายหายยาก และรังเกียจเรื่องการถูกยุ่มย่ามตามตอแย แต่มีอุดมการณ์การทำงานพอควร
รถสีเหลือง
ฉลาดปราดเปรื่องทะเยอทะยานไปสู่การงาน ซึ่งนำผลประโยชน์และความสำเร็จก่อนอื่นใด หัวใจน่ะเหรอ เขาและเธอวางท่าบังตาได้ดียิ่งยวด แต่แอบเจ็บปวดทุกคราว แล้วก็ก้าวเดินต่อไปขณะที่ใจเจ็บๆ เหมือนเดิม
รถสีน้ำตาล
รักการมีระเบียบแบบแผน หนักแน่นด้วยภูมิปัญญาในความคิด แต่จิตใจหนักข้างไปทางอนุรักษ์นิยม ชื่นชมของเก่าแก่ เผลอ ๆ อาจจะแบไต๋หัวใจว่ารักคนสูงอายุซะด้วยรถสีทอง
คล่องตัวพอดูในหัวหู ไม่ค่อยจะถือสาหาความใคร เพราะหัวใจชอบความสนุกสนาน ชอบหว่านเงินเดินนำหน้า ด้วยว่าเป็นคนกว้างขวาง
รถสีเงิน (บรอนซ์)
ร้อนแรงภายใน จิตใจแกร่งกร้าวเอาไหนเอากันบางด้านดูครื้นเครงไม่เลว แม้รู้ว่ามีเปลวไฟในความรัก เธอและเขาก็อยากจับมันเล่นซะยังงั้น และยังดันจับใหม่ไม่เข็ดขยาดซะด้วยสิ

วิธีลดแคลอรี่ส่วนเกิน

วิธีลดแคลอรี่ส่วนเกิน
ใครที่อยากลดแคลอรี่ในร่างกาย วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์มีวิธีมาบอก…กับวิธีต่อไปนี้จะทำให้สามารถลดปริมาณแคลอรี่ไปได้ตั้งเกือบๆ 100 แคลอรี่ 1. เวลาจะเจียวไข่ให้ใส่ผักสด เช่น หัวหอม มะเขือเทศ เห็ดสดลงไปด้วย และใช้วิธีทอดด้วยน้ำแทนจะทำให้อิ่มท้องเร็วขึ้น และน้ำมันที่ตัดออกไปก็คือการกำจัดไขมันที่จะเข้าสู่ร่างกายโดยตรง
2. เปลี่ยนจากทานข้าวขาวมาทานข้าวกล้อง และเปลี่ยนจากขนมปังขาวธรรมดามาทานขนมปังโฮลวีตแทน เส้นใยในข้าวกล้องและขนมปังโฮลวีตจะช่วยเรื่องขับถ่าย ทำให้น้ำหนักลดลงได้
3. เลิกทานขนมปังพร้อมเนย จะช่วยกำจัดปริมาณแคลอรี่ได้ถึง 75 กิโลแคลอรี่ ต่อขนมปัง 1 แผ่น
4. ทานข้าวน้อยลง 1 ทัพพีสามารถลดได้ 80 แคลอรี่ ทำทั้ง 3 มื้อกำจัดไป 240 แคลอรี่
5. เปลี่ยนขนาดแก้วที่ใส่น้ำผลไม้ให้เล็กลง หรือถ้าดื่มจากกล่องก็ลดขนาดจากกล่อง 250 ซีซี มาเป็น 200 ซีซี แทน
6. เวลาจะเติมน้ำตาลในชาหรือกาแฟ ให้เปลี่ยนมาใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลสามารถลดได้ 32 แคลอรี่
7. ใช้นมพร่องมันเนย แทนครีมเทียม
8. เวลาทานสลัดผัก ลดปริมาณน้ำสลัดลง 1 ช้อนโต๊ะ จะลดแคลอรี่ได้ 60 แคลอรี่ ถ้าลดปริมาณน้ำสลัดแบบน้ำใสลง 1 ช้อนโต๊ะ จะกำจัดไปได้อีก 45 แคลอรี่
9. ทานอาหารเช้าที่ให้พลังงานต่ำ เช่น แกงจืดผักใส่เต้าหู้หรือผัดผักใส่เนื้อสัตว์ไม่ติดมันและอาหารใน 1 มื้ออนุญาตให้มีอาหารประเภททอดหรือผัดได้เพียง 1 อย่างเท่านั้น
10. ถ้าใส่น้ำตาลเพียงครึ่งซอง หรือลดปริมาณน้ำตาลจาก 2 ช้อนชา (2 ก้อน) เป็น 1 ช้อนชา (1 ก้อน) จะลดได้ 15 แคลอรี่
รู้อย่างนี้แล้ว ถ้าไม่อยากให้แคลอรี่เกินมาตรฐาน ลองนำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติตามกันดูได้

วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2551

สตอร์ม เซิร์จ (Storm Surge)

เตือน! สตอร์ม เซิร์จ คลื่นพายุหมุน แรงเท่านาร์กีส

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต หลังจากที่ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการอำนวยการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ออกมากล่าวเตือน แนวชายฝั่งอ่าวไทย 3 จังหวัด คือ สมุทรปราการ สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม รวมถึงบริเวณชายฝั่งทะเลในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ระวังวิบัติภัยจากสตอร์ม เซิร์จ (Storm Surge) ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นได้ในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน โดยปรากฏการณ์ดังกล่าวถือเป็นช่วงอันตรายอย่างยิ่ง จากความเร็วของแรงลมที่ 118 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะส่งผลให้คลื่นสูงเฉลี่ย 2.2-4.5 เมตร ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงๆ ความรุนแรงอาจเท่าพายุนาร์กีสเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามข่าวดังกล่าวได้สร้างความแตกตื่นกันไม่น้อย กับปรากฎการณ์ สตอร์ม เซิร์จ (Storm Surge) หรือ พายุหมุน หรือ คลื่นซัดเข้าชายฝั่ง เชื่อหรือไม่ว่า ปรากฎการณ์ Storm Surge เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยมาแล้ว! และเคยเกิดบ่อยครั้งด้วย ซึ่งแต่ละครั้งก็นำมาซึ่งความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง.... ย้อนกลับไปเมื่อปี 2532 เกิดพายุไต้ฝุ่น เกย์ (คุ้นๆ ใช่ไหมล่ะ) พัดถล่ม จังหวัดชุมพร มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน ต่อมาปี 2540 พายุลินดา ก็พัดซ้ำรอยเดิม ใน จังหวัดชุมพร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดเพชรบุรี ครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตน้อยกว่า ทว่าก็สร้างความเสียหายมากครั้งหนึ่งเช่นกัน และครั้งสำคัญในปี 2505 พายุที่แหลมตะลุมพุก อันเกิดจากพายุโซนร้อนแฮเรียต ได้กลายเป็นประวัติศาสตร์อันน่าโศกเศร้า ยังมาซึ่งความเสียหายต่อชีวิต และภูมิประเทศ โดยในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตกว่าพันคน!!! หันมาดูในฝั่งกรุงเทพฯ กันบ้าง เมื่อปี 2504 Storm Surge ก็เคยมีปรากฏการณ์เกิดพายุใหญ่ซัดเข้ามาในอ่าวไทย จนเกิดน้ำท่วมกรุงเทพฯ เช่นกัน และในปี 2526 ก็เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่าฝนพันปี มีน้ำท่วมและขังในพื้นที่นาน ที่สำคัญ การเกิดขึ้นของพายุได้สร้างความเสียหายต่อการกัดเซาะชายฝั่งของกรุงเทพฯ จนเป็นพื้นที่ที่เรียกว่าทะเลตรม และไม่สามารถป้องกันน้ำทะเลได้ในหลายจุด อ่านมาถึงตรงนี้แล้วเริ่มรู้สึกว่า Storm Surge เป็นเรื่องใกล้ตัวกันบ้างแล้วใช่ไหมหล่ะคะ . . . แล้ว Storm Surge เกิดขึ้นได้อย่างไรกัน??? …เรื่องนี้ นาวาเอก กตัญญู ศรีตังนันท์ ผู้บังคับหมวดเรืออุทกศาสตร์ กองทัพเรือ ให้คำอธิบายว่า… Storm surge คือ ปรากฏการณ์คลื่นที่เกิดขึ้นพร้อมกับพายุหมุนโซนร้อน ที่ยกระดับน้ำทะเลให้สูงขึ้นกว่าปกติ อันเนื่องมาจากความกดอากาศต่ำที่ปกคลุม ณ บริเวณนั้น ซึ่งเวลาที่หย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนตัวผ่านไปพร้อมกับศูนย์กลางของพายุ ทำให้แรงกดนั้นยกระดับน้ำจนกลายเป็นโดมน้ำขึ้นมา โดยเคลื่อนตัวจากทะเลซัดเข้าหาชายฝั่ง ที่สำคัญยิ่งความกดอากาศต่ำเท่าไร ก็จะทำให้เกิดปรากฏการณ์คลื่นพายุหมุนมากเท่านั้น หากจะวัดเป็นตัวเลข ก็มีความหมายว่า ความกดอากาศต่ำที่ลดลง 1 มิลลิบาร์ จะทำให้น้ำทะเลสูงขึ้น 1 เซนติเมตร Storm Surge ร้ายแรงกว่าสึนามิ พอกันกับนาร์กีส
รูปแบบการเคลื่อนตัวที่เป็นเหมือนคลื่นขนาดใหญ่ แล้วพัดเข้าชายฝั่งของ Storm Surge เป็นลักษณะเดียวกันกับคลื่นยักษ์สึนามิ แต่แตกต่างกันตรงที่ ลักษณะของการเกิด คือ สึนามิ เกิดขึ้นจากปรากฏการณ์ของแผ่นดินไหวใต้ทะเล ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนส่งผลให้เกิดคลื่นขนาดยักษ์ซัดเข้าชายฝั่ง แต่กับ Storm surge จะเกิดขึ้นโดยมีตัวแปรจากพายุ สำหรับ ความเสียหายนั้น ว่ากันว่า Storm surge เลวร้ายมากกว่า กล่าวคือ การเกิดสึนามิจะเกิดขึ้นวันไหนก็ได้ โดยท้องฟ้าอาจจะแจ่มใส อากาศเป็นปกติ เหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วทางฝั่งอันดามันของไทย แต่หากเป็น Storm surge จะเกิดขึ้นพร้อมกับพายุ ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นวันที่ท้องฟ้าปั่นป่วน ไม่แจ่มใส สภาพอากาศเลวร้าย มีการก่อตัวของเมฆฝน ฝนตกอย่างหนัก ลมพัดแรง บริเวณชายฝั่งเกิดคลื่นโถมกระแทกอย่างหนัก คลื่นในทะเลสูง แต่เมื่อศูนย์กลางของพายุเคลื่อนเข้ามา ก็จะหอบเอาโดมน้ำขนาดใหญ่ซัดเข้ามาอีกครั้ง ดังนั้น ความเสียหายจึงเพิ่มเป็นทวีคูณ อย่างไรก็ตาม แม้จะเลวร้ายมากกว่า แต่ก็สามารถรับมือได้ดีกว่า เพราะเมื่อ Storm surge เกิด มักจะมาพร้อมกับพายุโซนร้อน ดังนั้น เราจะเห็นสัญญาณเตือนหลายอย่าง เช่น การเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยา และจากการสังเกตลักษณะอากาศที่จะค่อยๆ เลวร้ายลง ทำให้เรารู้ตัวล่วงหน้าหลายวัน และสามารถหาทางอพยพได้ทัน แต่กับสึนามิอาจจะไม่รู้ได้เลย เพราะบางครั้งก็เกิดขึ้นในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีสัญญาณบอกเหตุร้ายแต่อย่างใด แต่ปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้น ในช่วงหลายปีมานี้ก็เป็นอะไรที่คาดเดา พยากรณ์ได้ยากเช่นกัน ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการเกิดภาวะโลกร้อน ที่ทำให้สภาพอากาศในทุกมุมโลกเกิดความแปรปรวน และยิ่งทวีความรุนแรงของเหตุการณ์ขึ้น สิ่งนี้จึงเรื่องที่ต้องได้รับการติดตามอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ การเกิดขึ้นของปรากฏการณ์ดังกล่าว ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในทะเลอ่าวไทยเท่านั้น แต่ยังสามารถเกิดขึ้นได้ในทะเลสาบสงขลา จังหวัดสงขลา หนองหาร จังหวัดสกลนคร หรือกว๊านพะเยา จังหวัดพะเยา เพราะเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ได้อีกด้วย เราจะรู้ได้อย่างไรว่าจะเกิดคลื่นพายุหมุน หรือ Storm surge? รศ.ดร.บรรณโศภิษฐ์ เมฆวิชัย รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้ความเห็นกับเรื่องนี้ว่า สิ่งที่น่าจับตามากที่สุดคือ ปรากฏการณ์โลกร้อน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเกิดขึ้นของคลื่นพายุหมุน และน่าจะมีลักษณะเดียวกับการเกิดของพายุนาร์กิสที่ประเทศพม่า ซึ่งเกิดขึ้นโดยฉับพลัน ไม่มีสัญญาณบ่งชี้เรื่องของภูมิอากาศที่แปรปรวน ก่อนที่จะเกิดสึนามิหรือนาร์กีส ท้องฟ้ายังแจ่มใส ไม่มีการตั้งเค้าของพายุ "แนวชายฝั่งของ 3 จังหวัดอ่าวไทยคือ สมุทรปราการ สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม มีภูมิประเทศเป็นรูปตัว ก.ไก่ คือเป็นพื้นที่ค่อนข้างสูง แต่บริเวณพื้นที่ชั้นในค่อนข้างต่ำเป็นแอ่ง ฉะนั้น หากเกิดปรากฏการณ์คลื่นพายุหมุน น้ำทะเลน่าจะทะลักเข้าทางถนนสุขุมวิท ย่านบางนา รวมทั้งเข้าทางฝั่งธนบุรี ก่อนที่จะถึงเขตกรุงเทพฯ ชั้นใน ก็น่าคิดหามาตรการเตรียมรับมือ" รศ.ดร.บรรณโศภิษฐ์กล่าว รับมืออย่างไร กับ Storm Surge
สำหรับการเตรียมความพร้อม เพื่อรับมือกับ Storm surge นั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือ การรับข่าวสาร และทำความเข้าใจ โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ควรศึกษาลักษณะของการเกิด และความรุนแรงเพื่อที่จะได้หาทางหนีทีไล่ได้ทัน โดยการหนีนั้นจะมีหน่วยงานที่ร่วมทำแผนที่เสี่ยงภัย ซึ่งหากบริเวณไหนมีประชากรหนาแน่น บริเวณนั้นจะมีความเปราะบางมาก จึงต้องทำแผนที่ให้ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเมืองท่องเที่ยว ทั้งนี้ วิธีการป้องกันการเกิดพายุหมุน หรือคลื่นซัดเข้าชายฝั่ง (Storm Surge) นั้นมีอยู่หลายแนวทาง ซึ่ง รศ.อัปสรสุดา ศิริพงษ์ อาจารย์ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลว่า ทางออกที่ดีที่สุด คือ การช่วยกันรักษาป่าชายเลนตามแนวชายฝั่ง หรือปลูกป่าชายเลนเพิ่มในพื้นที่ชายฝั่ง เพื่อช่วยลดความรุนแรงของ Storm surge อีกทั้งควรกำหนดเป็นหลักสูตรในเรื่องของภัยพิบัติลงในแบบเรียน เพราะเป็นสิ่งที่ต้องปลูกฝังให้เด็กเกิดความตื่นตัว จึงต้องสร้างความตระหนักให้เกิดขึ้น และต้องมีการซ้อมแผนเตือนภัยอยู่ตลอดเวลา เมื่อถึงคราวเกิดขึ้นจริง จะได้ช่วยลดความเสียหายจากชีวิตและทรัพย์สินได้ ... เห็นทีระยะนี้คงต้องฝากเตือนทุกคน ให้การติดตามข่าวสารการพยากรณ์อากาศกันมากๆ นะคะ โดยเฉพาะใครที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง เพื่อจะได้รับมือกับ Storm Surge กันได้อย่างทันท่วงทีค่ะ
พายุ! สตอร์ม เซิร์จ เกิดได้แต่ % น้อย

"สตอร์ม เซิร์จ" ภัยพิบัติวิกฤติระบดับพายุนาร์กีสที่เกิดในพม่า สร้างความกังวลใจให้กับผู้คนที่อยู่ติดชายฝั่งอ่าวไทยสมุทรปราการ... ไล่ลึกมาถึงกรุงเทพฯ สตอร์ม เซิร์จ...อาจไม่คุ้นหู แต่เกิดขึ้นในประเทศไทยมาแล้ว...อย่างน้อยสามครั้ง... ปี 2505 พายุแฮเรียต พัดขึ้นฝั่งถล่มแหลมตะลุมพุก จังหวัดนครศรีธรรมราช สร้างความเสียหายสุดประมาณการเป็นลูกแรก ถัดมาอีก 27 ปี พ.ศ. 2532 พายุเกย์ พัดถล่มหลายพื้นที่ในจังหวัดชุมพร และอีก 8 ปีให้หลัง พ.ศ. 2540 พายุลินดา ก็ถล่มซ้ำจังหวัดชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ข้อมูลวิชาการ ระบุว่า สตอร์ม เซิร์จ (Storm surge) เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมกับพายุหมุนโซนร้อน ที่ยกระดับน้ำทะเลให้สูงขึ้นกว่าปกติ อันเนื่องมาจากความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณนั้น หมายความว่า เวลาที่หย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนตัวผ่านไปพร้อมกับศูนย์กลางของพายุจะทำให้แรงกด ยกระดับน้ำจนกลายเป็นโดมน้ำ เคลื่อนตัวเข้าหาชายฝั่ง สตอร์ม เซิร์จ กับ คลื่นยักษ์สึนามิ ลักษณะการเกิดต่างกัน แต่ผลคล้ายกัน คือ เกิดคลื่นน้ำขนาดใหญ่ถล่มเข้าหาฝั่ง คะเนความเสียหาย สตอร์ม เซิร์จ อาจจะเลวร้ายกว่ามาก สตอร์ม เซิร์จ เกิดขึ้นพร้อมพายุ ท้องฟ้าปั่นป่วน สภาพอากาศเลวร้าย เมฆฝนก่อตัว ฝนตกหนัก ลมพัดแรง ชายฝั่งเกิดคลื่นถาโถมอย่างหนัก และคลื่นในทะเลสูง โชคร้าย...เมื่อศูนย์กลางของพายุเคลื่อนเข้าหาฝั่ง ก็จะหอบเอาโดมน้ำขนาดใหญ่ซัดเข้าฝั่ง ความเสียหายจึงเพิ่มเป็นทวีคูณ พุ่งเป้าไปที่พายุโซนร้อน เกิดในอ่าวไทยใกล้ฝั่ง มีความถี่ ความเสี่ยงจะเกิดสตอร์ม เซิร์จ กี่มากน้อย? กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า ประเทศไทย ตั้งอยู่ระหว่างบริเวณแหล่งกำเนิดของพายุหมุนเขตร้อนทั้งสองด้าน ด้านตะวันออก คือมหาสมุทรแปซิฟิก-ทะเลจีนใต้ ด้านตะวันตก คืออ่าวเบงกอล-ทะเลอันดามัน พายุมีโอกาสเคลื่อนจากมหาสมุทรแปซิฟิก และทะเลจีนใต้เข้าสู่ประเทศไทยทางด้านตะวันออก มากกว่าทางตะวันตก เฉลี่ยปีละ 3-4 ลูก บริเวณที่พายุมีโอกาสเคลื่อนผ่านเข้ามามากที่สุด คือ ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะตอนบนของภาค ช่วงต้นปี...มกราคมถึงมีนาคม เป็นช่วงปลอดพายุ ถึงเมษายนเป็นเดือนแรกของปีที่พายุจะเริ่มเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยทางภาคใต้...แต่มีโอกาสน้อย เคยเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในรอบ 50 ปี (พ.ศ. 2494-2543) เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป พายุจะเข้าไทยมากขึ้น ส่วนใหญ่เป็นพายุที่มาจากด้านตะวันตก เข้าสู่ประเทศไทยตอนบน และเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม พายุส่วนใหญ่จะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยทางด้านตะวันออก ตอนบนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้ากันยายนถึงตุลาคม...พายุมีโอกาสเคลื่อนเข้าทุกพื้นที่ได้มาก โดยเฉพาะเดือนตุลาคม มีสถิติเข้ามามากที่สุด ช่วงปลายปี พฤศจิกายน พายุจะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยตอนบนน้อยลง มีโอกาสเคลื่อนเข้าสู่ภาคใต้มากขึ้น พอเดือนธันวาคม พายุมีแนวโน้มเคลื่อนเข้าสู่ภาคใต้เท่านั้น วิเคราะห์...สถิติพายุหมุนเขตร้อนที่เคลื่อนเข้าไทยในรอบ 48 ปี ทั้งหมด 164 ลูก พบว่าบริเวณที่ศูนย์กลางพายุเคลื่อนผ่านมากที่สุด คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จังหวัดนครพนม มีพายุผ่าน 20-25% ของพายุทั้งหมด รองลงมามุกดาหาร สกลนคร หนองคาย อุดรธานี กาฬสินธุ์ หนองบัวลำภู และเลย มีพายุผ่าน 15-20% ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม พายุส่วนใหญ่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยทางด้านตะวันตกของประเทศ บริเวณที่ศูนย์กลางพายุเคลื่อนผ่านมากที่สุดมากกว่า 25% เข้ามา 6 ลูก ได้แก่ พื้นที่ของภาคเหนือตอนบนในเขตจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูนและพื้นที่ของภาคกลางในเขตจังหวัดกาญจนบุรี ต่อเนื่องกับจังหวัดตาก อุทัยธานี เดือนมิถุนายน ศูนย์กลางพายุเคลื่อนผ่านมากที่สุดมากกว่า 50% เข้ามา 6 ลูก ได้แก่ ตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน โดยเฉพาะนครพนม หนองคาย สกลนครตอนบน เดือนสิงหาคมศูนย์กลางพายุเคลื่อนผ่านมากที่สุด มากกว่า 25% จำนวน 18 ลูก ได้แก่ ตะวันออกของภาคเหนือตอนบน น่าน พะเยา แพร่ ลำปาง เชียงราย เชียงใหม่ ส่วนพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน...นครพนม สกลนคร หนองคาย อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย มีพายุเคลื่อนผ่านเข้ามามากกว่า 25% จำนวน 18 ลูก เดือนกันยายน...ต้องจับตาเป็นพิเศษ เดือนนี้...เป็นเดือนแรกที่พายุเริ่มเคลื่อนตัวเข้ามาในภาคใต้ตอนบน... แต่มีโอกาสเกิดน้อย ช่วงนี้พื้นที่ส่วนใหญ่ที่ศูนย์กลางพายุเคลื่อนผ่านยังคงเป็นประเทศไทยตอนบน มากกว่าร้อยละ 25 เข้ามา 39 ลูก ได้แก่ นครพนม สกลนคร หนองคาย อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เดือนตุลาคม พายุมีโอกาสเคลื่อนผ่านประเทศไทยได้ทั้งในประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ มากกว่า 10% จำนวน 48 ลูก...มีโอกาสเคลื่อนเข้าสู่ภาคใต้ตอนล่าง ได้บ้าง แต่ยังน้อยอยู่ สถิติศูนย์กลางที่พายุเคลื่อนผ่านมากที่สุด เป็นพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเกือบทั้งหมด ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง ต่อเนื่องถึงภาคใต้ตอนบน เดือนพฤศจิกายน พายุมีโอกาสเคลื่อนเข้าสู่ภาคใต้ได้มาก โดยเฉพาะจังหวัดนครศรีธรรมราช มีพายุเคลื่อนผ่านมากกว่า 25% จำนวน 28 ลูก รองลงมา 10-25% เข้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสงขลา เดือนสุดท้าย...ธันวาคม เป็นเดือนที่ไม่มีพายุเคลื่อนผ่านประเทศไทยตอนบน แต่พายุทั้งหมดจะเคลื่อนผ่านอ่าวไทย เข้าสู่ภาคใต้ตอนล่างไล่ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป ศูนย์กลางพายุเคลื่อนผ่านมากที่สุด 75% จำนวน 7 ลูก อยู่ในพื้นที่จังหวัดสงขลา พัทลุง ต้องย้ำว่า พายุหมุนเขตร้อนเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ปกคลุมพื้นที่กว้างนับร้อยกิโลเมตร ก่อให้เกิดผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะในอาณาบริเวณที่ศูนย์กลางพายุเคลื่อนผ่าน จะได้รับผลกระทบมากที่สุด ความเสียหายที่เกิดขึ้นแปรผันตามความรุนแรงของพายุ...มีกำลังแรงในขั้นดีเปรสชัน ความเสียหายส่วนใหญ่จะเกิดจากฝนตกหนัก และอุทกภัยที่เกิดขึ้นตามมา เมื่อพายุมีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนหรือไต้ฝุ่น จะมีความเสียหายเพิ่มขึ้นอีกมากทั้งชีวิตและทรัพย์สิน จากฝนตกหนัก อุทกภัย ลมพัดแรงจัด คลื่นสูงในทะเล...มีคลื่นซัดฝั่ง พายุหมุนเขตร้อนที่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็น...พายุดีเปรสชัน มักจะอ่อนกำลังลงก่อนถึงประเทศไทย ส่วนพายุโซนร้อน หรือไต้ฝุ่น มีโอกาสเกิดน้อย ในรอบ 48 ปี...มีเพียง 11 ครั้ง ที่มีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน หรือไต้ฝุ่น ในจำนวนนี้ มีครั้งเดียวที่มีกำลังแรงเป็นไต้ฝุ่น คือ ไต้ฝุ่นเกย์ กรมอุตุนิยมวิทยา แจงว่า ภัยพิบัติ...สตอร์ม เซิร์จ ในอ่าวไทยตอนบน ความรุนแรงเท่ากับพายุไซโคลนนาร์กีส จึงมีโอกาสเกิดขึ้นได้...น้อย...ถึงน้อยมาก ประการแรก...สถิติในรอบ 57 ปี มีพายุเคลื่อนตัวเข้ามาในอ่าวไทยตอนบนในช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน แต่ความแรงลมมักน้อยกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ประการที่สอง... การเคลื่อนตัวของพายุในอ่าวเบงกอลที่เข้าประเทศพม่าเกิดจากลมที่มีความชื้นมาก ทำให้พายุมีกำลังแรงขึ้นก่อนขึ้นฝั่ง แต่...พายุที่เคลื่อนตัวเข้าอ่าวไทย เกิดจากลมที่มีความชื้นน้อย จะทำให้พายุอ่อนกำลังลง และมีแรงลมน้อยกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่สตอร์ม เซิร์จ เกิดจากพายุที่มีแรงลมมากกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ประเด็นสำคัญ การติดตามการก่อตัวและแนวโน้มของพายุที่มีผลกระทบต่อประเทศไทย กรมอุตุนิยมวิทยาสามารถแจ้งเตือนให้ทราบล่วงหน้า เพื่อเตรียมป้องกันได้ไม่น้อยกว่า 5 วัน สรุปว่า...สตอร์ม เซิร์จ ถึงจะเป็นภัยพิบัติที่น่ากลัว แต่ก็ยังไม่มาเร็วด่วนจี๋ภายในชั่วโมง...ครึ่งชั่วโมง เหมือนคลื่นยักษ์สึนามิ แต่ที่ต้องกลัว และไม่ประมาท สตอร์ม เซิร์จ เกิดจากพายุหมุนโซนร้อนที่พัดเข้าอ่าวไทย ยังไงก็มีโอกาสเกิดถี่กว่าสึนามิหลายเท่านัก.




ที่มาจาก www.kapook.com